ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

โกลด์ เอนซ์ (Gold N)

นวัตกรรมการผลิตด้วยเทคโลโลยีไฮโดไลซิส

1 เดียวของ PGP

ราคา 1200 บาท

 

       โกลด์-เอนซ์-Gold-N Good Products  มาตรฐานสินค้าระดับโลก ผสมผสานธัญพืชธรรมชาติกับเทคโนโลยีไฮโดรไลซิส เอนไซม์ สารอาหารจำพวกโปรตีน ที่ให้พลังงานสูง เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวะเคมีในร่างกาย เช่น การย่อยอาหาร การขับถ่าย การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมส่วนที่ขาด ขจัดสารพิษในร่างกาย  ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบเลือด เป็นต้น

เอนไซม์ Enzyme คืออะไร

        เอนไซม์ เป็นสารกลุ่มโปรตีนที่ร่างกายได้รับจาการรับประทานอาหารและสร้างขึ้นเอง ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้มีอยู่ก่อนที่ร่างกายจะมีปฏิกิริยาเคมีใดๆ เกิดขึ้น แม้กระทั่งวิตามิน แร่ธาตุ หรือฮอร์โมนก็ไม่สามารถทำงานได้หากไม่มี เอนไซม์ เอนไซม์มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ ใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงสุดแล้วก็ตาม เอนไซม์ เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งเป็นพลังแห่งการขับเคลื่อนที่ทำให้เราสามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างมีสุขภาพดี หรือกล่าวได้ว่าเราไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้หากขาด เอนไซม์

แหล่งผลิต เอนไซม์ Enzyme

        เอนไซม์ ที่ใช้ในขบวนการเผาผลาญพลังงาน (Metabolize Enzyme) ทั้งหมดจะสร้างขึ้นในร่างกาย ซึ่งมีความสำคัญกับทุกขั้นตอนของการย่อยอาหารอายุที่มากขึ้นและความเครียดมี ผลให้การสร้างเอนไซม์เหล่านี้ลดลง ส่วน เอนไซม์ จากอาหาร (Food Enzyme) เช่น ผัก ผลไม้ จะคงความสามารถในการย่อยอาหารก็ต่อเมื่อยังไม่ผ่านการปรุงให้สุกเท่านั้น ที่มาอันมหัศจรรย์อีกแห่งของเอนไซม์ก็คือ เอนไซม์เสริมเพื่อช่วยย่อยอาหาร เอนไซม์ เหล่านี้สกัดจากเอนไซม์ในพืช เนื่องจากการผลิต เอนไซม์ ไม่สามารถทำเหมือนกับการสังเคราะห์วิตามินและแร่ธาตุ เราจึงต้องปลูกพืชแล้วผ่านนขบวนการสกัดในห้องปฏิบัติการ เอนไซม์ อื่นๆ ที่บริโภคได้เป็นเอนไซม์จากสัตว์

      เนื่องจาก เอนไซม์ จากพืชช่วยระบบย่อยอาหารได้ครบถ้วน และยังช่วยเสริมการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ จึงทำให้เอนไซม์กลุ่มนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า เอนไซม์ เสริมจากแหล่งอื่นๆ

ทำไมเราจึงต้องการ เอนไซม์

       80 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานในร่างกายถูกใช้ไปในขบวนการย่อยอาหารหากคุณอ่อนเพลีย เครียด อยู่ในสภาวะอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด ตั้งครรภ์ เดินทางโดยเครื่องบินบ่อยๆ คุณจะต้องการเอนไซม์เสริมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกระบวนการทำงานทั้งหมดของร่างกายต้องอาศัย เอนไซม์ เราจึงต้องเสริมเอนไซม์ให้ร่างกาย อายุที่มากขึ้นเป็นสาเหตุของการผลิตเอนไซม์ที่ลดลงผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ กล่าวว่า โรคต่างๆ เกิดขึ้นจากการขาดแคลนหรือความไม่สมดุลของ เอนไซม์ ดังนั้นเราทุกคนจึงไม่สามารถขาดเอนไซม์ได้

โกลด์เอนไซม์ gold enz ชีวิตมีพลังด้วยธรรมชาติ

       เอนไซม์ enzyme ที่มหัศจรรย์เหล่านี้ทำหน้าที่สำคัญ 2 อย่าง คือ ย่อยสลายอาหารให้เล็กลงพอที่จะผ่านเซลล์ผนังลำไส้ แล้วสารอาหารเหล่านี้ก็เข้าสู่กระแสเลือดต่อไป การย่อยอาหารเป็นหนาที่สำคัญอย่างยิ่งของร่างกาย เมื่อเรารับประทานอาหาร เอนไซม์ย่อยอาหารจะถูกดึงมาจากทุกระบบของร่างกายในทันทีเพื่อทำการย่อยอาหาร

แต่ ทว่า เอนไซม์ enzyme ย่อยอาหารเหล่านี้ก็ยังมีหน้าที่อื่นๆอีกในการที่จะซ่อมแซม ควบคุม และกระตุ้นการทำงานของระบบอื่นๆของร่างกายด้วย แต่ระบบเหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องหยุดทำงานชั่วคราวเพื่อส่งเอนไซม์ไปให้ระบบย่อยอาหาร วิธีแก้อย่างหนึ่งคือ รับประทานเฉพาะอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุก อาหารก็จะมีเอนไซม์เพียงพอที่จะย่อยตัวเองอยู่แล้ว อีกวิธีคือ รับประทานเอนไซม์เสริมสกัดจากพืช บรรจุในแคปซูลหรือเอนไซม์ผง

      อย่าลืมว่าการย่อยคาร์โบไฮเดรต ที่ไม่สมบูรณ์จะเกิดการหมักในลำไส้ หากเป็นอาหารกลุ่มไขมัน พวกผลิตภัณฑ์จากนม น้ำมันต่างๆ ของทอด จะเหม็นหืน และถ้าเป็นกลุ่มโปรตีน เช่นเนื้อสัตว์ ไก่ ปลา ถั่ว ต่างๆ ก็จะเน่า จึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมเรานี้จะมีปัญหาเรื่อง ท้องผูก แก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลมหายใจเหม็น

      อีกบทบาทหนึ่งของ เอนไซม์ คือ รักษาระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อันได้แก่ สลายไขมัน ลำเลียงอาหารเข้าสู่เซลล์ แจกจ่ายพลังงานไปยังเซลล์ที่ต้องการ ทุกกลไกของร่างกายตั้งแต่การสร้างกล้ามเนื้อกระดุก ต่อมต่างๆ และเส้นประสาท ไปจนถึงการกำจัดพิษออกจากร่างกาย ล้วนต้องอาศัยการทำงานของ เอนไซม์ ทั้งสิ้น จึงอาจกล่าวได้ว่าเอนไซม์เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตจากธรรมชาติ

จะทราบได้อย่างไรว่าเราขาด เอนไซม์ enzyme

      อาการที่เด่นชัดของการย่อยอาหารที่ไม่ดี คือ การเรอ มีแก๊ส จุกเสียด วิงเวียน ท้องผูก รู้สึกเหนื่อยหลังทานอาหาร แพ้อาหาร อีกวิธีคือสังเกตว่าคุณรับประทานอาหารประเภทใดมากที่สุดรวมถึงกาเฟอีน ช็อกโกแลต น้ำตาลฟอกขาว อาหารปรุงสุก อาหารแปรรูป

หากขาดเอนไซม์ สุขภาพของคุณจะเป็นอย่างไร ?

-ลำไส้ทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหารผ่านเข้าสู่กระแสเลือดไปเลี้ยงเชลล์ได้น้อยลง

-ขบวนการเผาพลาญและสร้างพลังงานให้กับเซลล์ลดลง จะรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

- ระบบอวัยวะในร่างกายทั้งหมดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

- วิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงฮอร์โมนต่างๆ ไม่สามารถทำงานตามหน้าที่ได้ ถ้าขาดเอนไซม์

- การย่อยที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้มีเศษอาหารเก่าตกค้างหมักหมมในลำไส้ เป็นเหตุให้เกิดพิษในร่างกาย เกิดการเจ็บป่วยและเกิดโรคร้ายต่างๆ

- ขบวนการสร้างภูมิต้านทานร่างกายลดลง ภูมิต้านทานน้อย

- มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ กรดแก๊สในกระเพราะอาหาร ริดสีดวง ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น เป็นต้น- มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ กรดแก๊สในกระเพราะอาหาร ริดสีดวง ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น เป็นต้น

คืนชีวิตใหม่ให้ระบบย่อยอาหาร

        มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับระบบย่อยอาหารของเรา ทำไมเราจึงรับประทานอาหารที่เราเคยรับประทานไม่ได้ คำถามเหล่านี้ถูกถามขึ้นเสมอ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ที่ว่ากันว่าร่างกายของคนเราสามารถย่อยและดูดซึมอาหารที่ปรุงสุกแล้ว ได้ดีกว่าอาหารที่ยังไม่ถูกความร้อนนั้นเป็นความเชื่อที่วันหนึ่งจะถูก พิสูจน์ว่าเป็นเรื่องที่ผิด อาหารที่ถูกความร้อนแล้วจะผ่านระบบการย่อยอาหารของเราช้ากว่าอาหารที่ยังไม่ ถูกความร้อน ดังนั้นจึงทำให้อาหารเหล่านั้นบูดเน่า ก่อให้เกิดสารพิษเข้าสู่ร่างกายของเรา มีผลต่อหัวใจ ทำให้ปวดหัว มีปัญหาทางสายตา แพ้ และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย

เอนไซม์ เสริมที่ได้จากพืชจะช่วยในการย่อยสลายอาหาร ในภาวะที่เหมาะสมจะเกิดขบวนการย่อยอาหารที่สมบูรณ์คือ

อาหารถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ สารอาหาร ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ของเสียจากขบวนการย่อยอาหารถูกกำจัดออกจากร่างกาย

      นอกจากนี้เอนไซม์ที่ได้จากพืชนั้นมีประโยชน์มากกว่าเอนไซม์ที่ได้จากสัตว์ เนื่องจากเอนไซม์จากพืชทำงานทันทีเมื่อเข้าสู่ระบบย่อยอาหารขณะที่อาหารยัง อยู่ส่วนบนของกระเพาะอาหาร เอนไซม์ก็เริ่มทำงานแล้ว บางครั้งเอนไซม์เริ่มทำงานตั้งแต่อยู่ในหลอดอาหารด้วยซ้ำไป

      ประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหารของคุณขึ้นอยู่กับความสามารถของกระเพาะอาหารใน การเริ่มขบวนการย่อยสลาย การที่จะมีสุขภาพที่ดีนั้นระบบย่อยอาหารของคุณต้องสามารถดูดซึมและแจก จ่ายออกไปได้ทั่วร่างกาย ส่วนแก๊สในทางเดินอาหาร เรารู้ว่าคาร์โบไฮเดรต สามารถเกิดการหมัก ไขมันเกิดการเหม็นหืน โปรตีนเกิดการเน่าเสีย สิ่งเหล่านี้เกิดจากการย่อยสลายอาหารที่ไม่สมบูรณ์

       ปัญหาใหญ่ของอาหารที่ไม่ถูกย่อยสลายคือ มันจะไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกายและสะสมเป็นของเสีย ทำให้เกิดปัญหาไขมันสูง มีแคลเซียมไปเกาะตามส่วนต่างๆ โรคไขข้อ มีเซลลูไลท์เกิดขึ้น ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นต้น

การสลายพิษและเพิ่มเสริม / การฟอกเลือดและลดคลอเลสเตอรอล

       การสลายพิษ (detoxify)หมายถึง การทำลายหรือต่อต้านพิษในร่างกายเรา ในอดีตต้องอาศัย 2 ขบวนการ ขบวนการแรกคือ ต้องทำลายพิษโดยการยุติการรับประทาน (การอดอาหาร) ซึงมักจะทำให้เกิดอาการเหมือนเป็นไข้หวัด เช่นตัวร้อน เพลีย ปวดเมื่อย ขบวนการต่อมาคือต้องเพิ่มอาหารบำรุงให้แก่ร่างกาย แต่ถ้าใช้เอนไซม์เราจะขจัดพิษและบำรุงร่างกายไปพร้อมๆกันโดยไม่มีผลข้าง เคียง

      การใช้เอนไซม์จะกำจัดความรู้สึกที่ไม่สบายที่มาพร้อมกับการกำจัดพิษ ทำให้เรารู้สึกสบายและมีพลังระดับสูง เป็นวิธีที่ ทำให้ร่างกายเราสวยงามและเป็นวิธีล้างและส่งเสริมร่างกาย

      เมื่อเราแก่ตัวขึ้น ร่างกายเราไม่สามารถกำจัดสารพิษจากเลือดและอวัยวะให้มีประสิทธิภาพถ้าไม่ได้ รับการช่วยเหลือ ระบบน้ำเหลืองกรองพวกสารที่ร่างกายไม่ต้องการออก เช่น เม็ดเลือดขาวจะทำลายแบคทีเรียและตัวมันเองก็ตายพร้อมแบคทีเรีย ระบบต่อมน้ำเหลืองนำเศษเซลล์เหล่านี้ไปที่ต่อมน้ำเหลืองเพื่อสลายให้เป็นสาร ที่ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ เพื่อนำมาใช้ใหม่ มีจำนวนคนนับล้านที่พยายามหาวิธีช่วยร่างกายกำจัดสารพิษ เช่น การบริโภคอาหาร Macrobiotic รับประทานอาหารเจ อดอาหาร หรือใช้สมุนไพร วิธีเหล่านี้ช่วยได้บ้างโดยเฉพาะการใช้สมุนไพร อย่างไรก็ตามสิ่งที่ขาดหายไป คือ เอนไซม์ ถ้าเราบริโภคเอนไซม์สม่ำเสมอจะช่วยทำให้เลือดบริสุทธิ์ โดยสลายโปรตีนเศษของเซลล์ และสารพิษชนิดอื่นๆ เมื่อเลือดอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ร่างกายเราก็สามารถที่จะซ่อมแซมตัวเองและสะสมแหล่งของเอนไซม์ ผลสุดท้ายคือร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

      การรับประทาน เอนไซม์ ไปพร้อมกับอาหารจะช่วยให้อาหารย่อยได้ดีขึ้นและทำให้มีการนำอาหารพวกนี้เข้า ไปในร่างกาย ถ้ารับประทานเอนไซม์ระหว่างมื้อจะช่วยสลายอาหารที่ไม่ถูกย่อย เพาะฉะนั้นเอนไซม์สำคัญมากในการรักษาโรคอ้วน ผู้ที่มีน้ำหนักเกินไม่สามารถระงับความอยากอาหารเลยทำให้รับประทานอาหารที่ มีแครอรี่สูง แต่ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการ ซึ่งทำลายระบบภูมิคุ้มกันรวมกับระบบอื่นๆในร่างกาย เอนไซม์จากพืชเป็นวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้และป้องกันไม่ให้เราทำลายตัวเองอีก ต่อไป

วิธีรับประทาน

นำผง เอนไซม์ 1-2ช้อนชา ผสมกับน้ำอุ่น 1แก้ว(250 CC.) ดื่มตอนเช้าและก่อนเข้านอน

วิธีเก็บรักษา โกลด์เอนไซม์ gold enz

ควรปิดฝาให้สนิท เก็บในที่แห้งและเย็น

 

 คุณสมบัติสารอาหารในผลิตภัณฑ์ พืชผักธัญพืชผสมชนิดผง มีสารอาหารที่แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ตามหน้าที่ๆสำคัญของร่างกาย ดังนี้

1.เอนไซม์ 450 ชนิด ช่วยฟื้นฟูเซลล์ในร่างกายคืนสู่สภาพปกติ

2.ให้พลังงาน..คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน

3.เป็นส่วนประกอบของร่างกาย  เกลือแร่หรือแร่ธาตุต่างๆ

4.ควบ คุมกระบวนการทางชีวเคมีต่างๆในร่างกาย..วิตามิน คาร์โบไฮเดรต(Carbohydrate) เป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญของเซลล์และเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเผาพลาญ ทำให้เกิดพลังงานภายในเซลล์ นอกจากนั้นยังมีอาหารประเภทสารเส้นใยอาหาร (Dietary Fiber) ซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวดต่อร่างกาย เส้นใยอาหารในผลิตภัณฑ์พืชผักธัญพืชผสมชนิดผง ประกอบด้วย

-เซลลุโลส ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

-เฮมิเซลลูโรส ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

-เพกติน ช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด

-ลิกนิน และ แวกซ์ ทำให้อุจระไม่แข็ง ท้องไม่ผูก ลดการเกิดโรคริดสีดวงทวาร

ไขมัน ที่พบในเอนไซม์ จะเป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ประกอบด้วยกรดไขมัน 3ชนิด

ส่วนประกอบสำคัญ โกลด์เอนไซม์ gold enz
สารอาหารสกัดจากธัญพืชด้วยเทคโนโลยี ไฮโดรลิซิส (Hydrolysis)

ถั่วแดง  48.50%

ข้าวหอมมะลิ  35.25%

ถั่วเหลือง  10.25%

ลูกเดือย  5.00%

งา  1.00%

ไม่เจือสีสังเคราห์ และไม่มีวัตถุกันเสีย

เลขที่ อย. 10-1-00653-1-0064

อาการตอบรับจากการใช้เอนไซม์

 

หลัง จากกินเอนไซม์แล้วจะเกิดอาการต่าง ๆ ปรากฏตามร่างกายหรือจะปวดบางแห่งภายในร่างกาย  นั่นเป็นเพราะเอนไซม์กับออกซิเจนเข้าไปทำปฏิกิริยาตามจุดที่เป็ นโรค  มีเชื้อโรค  มีอาการอักเสบ  และมีสารพิษในร่างกาย  ทำให้อวัยวะส่วนที่เคยหยุดทำงานให้กลับฟื้นคืนทำงานได้ตามปกติ เช่น  สิ่งสกปรกค้างในลำไส้มาช้านาน  เริ่มมีการขับถ่ายจะเกิดอาการปวดท้อง  เป็นต้น  หรือสารพิษในร่างกายเกิดการเคลื่อนย้ายก็มีอาการปวดเกิดขึ้นเช่ นกัน  เช่น  โรคไขข้อ  โรคเก๊าท์  อัมพฤก อัมพาต  เป็นต้น  เป็นที่น่ายินดีกับท่านที่มีอาการเช่นนี้  เพราะแสดงว่า เอนไซม์สามารถช่วยบำบัดอาการต่าง ๆ ของโรคได้ตรงที่ตรงจุด และสามารถหายได้เป็นปกติเหมือนเดิม บางคนตื่นตกใจ คิดว่า  โรคภัยไข้เจ็บกำเริบขึ้น หรือเป็นผลข้างเคียงจากการทานเอนไซม์ อันที่จริงการเกิดอาการเช่นนี้ใช่ว่าจะเกิดกับทุกคนที่ดื่มเอนไ ซม์  ผู้ที่ร่างกายแข็งแรงจะเกิดอาการนี้ไม่มากนัก  สำหรับผู้ที่ร่างกายไม่สมบูรณ์มีโรคภัยไข้เจ็บมาก ๆ เนื่องจากเซลล์ในร่างกายตายไปแล้วไม่สามารถตอบสนองการสร้างเซลล ์ใหม่ ก็จะไม่มีอาการต่าง ๆ ตามร่างกายมากนัก ส่วนผู้ที่กินแล้วเกิดอาการต่าง ๆ ตามร่างกายที่เด่นชัด คือ ผู้ป่วยที่มีร่างกายกึ่งสมบูรณ์  ที่สามารถตอบรับการสร้างเซลล์ใหม่แทนเซลล์เก่าได้ น่ายินดีที่ผู้ป่วยที่มีโอกาสฟื้นฟูร่างกายจากโรคภัยไข้เจ็บต่า ง ๆ ได้
 

ตัวอย่างอาการตอบรับที่อาจแสดงออกมาตามโรค

 

ปัญหาสุขภาพ อาการตอบรับที่อาจแสดงออก
ผู้มีกรดยูริกมาก
ง่วงนอน  คอแห้ง  ลิ้นแห้ง  กลางคืนจะปัสสาวะมาก และผายลมบ่อย


ความดันโลหิตสูง
ปวดศรีษะ  ความดันจะสูงขึ้น  บางครั้งอาเจียน


โลหิตจาง
ร้อนบริเวณหน้าอก  ไม่เจริญอาหาร


กระเพาะเป็นแผล
จุดที่กระเพาะเจ็บจะมีอาการเจ็บมากขึ้น มีกลิ่นปาก มีอาการคล้ายโรคบิด


โรคลำไส้
มีอาการคล้ายโรคบิด


โรคหัวใจ
หายใจถี่ ไม่สม่ำเสมอ อารมณ์หงุดหงิด  ปวดศรีษะ


โรคปอด
บ้วนเสมหะ  มีอาการเหมือนโรคหืด  ไอ ปวดนิดๆ


โรคไต
เจ็บไต  ปัสสาวะเพิ่มและเปลี่ยนสี  อ่อนเพลีย  คันตามตัว  ขาบวม


โรคไซนัส
น้ำมูกจะมากขึ้น


โรคเบาหวาน
ตัวบวม  คันตามตัว  ปากแห้ง น้ำตาลลด-เพิ่ม สายตามัว


โรคผิวหนัง
มีอาการผดผื่น คัน


โรคริดสีดวงทวาร
ขับถ่ายมีเลือดเพิ่ม


ปวดศรีษะซีกเดียว
ประสาทดีขึ้น เวลาหลับจะหลับสนิท


โรคตับ
ระบาย ลมที่ข้างในหน้าอก  วิงเวียนศรีษะ  อาเจียน  ออกเหลืองทั่วตัวคล้ายดีซ่าน คันทั้งตัวคล้ายอีสุกอีใส  กระหายน้ำ  อ่อนระโหยโรยแรง อุจจาระมีเลือด  ท้องผูก


ไมเกรน
มีอาการปวดศรีษะติดต่อกันหลายวัน


ต่อมไทรอยด์อักเสบ
คันตามตัว  ตัวบวม  ปวดเมื่อย


ความดันต่ำ
รูจมูก โพรงปาก มีเลือดไหลซึม ๆ


โรคเก๊าท์
โรคไขข้อ บริเวณที่อักเสบจะปวดเมื่อยมากขึ้น


โรคลมตะกัง
มีอาการปวดศรีษะติดต่อกันหลายวัน


โลหิตหมุนเวียนไม่สะดวก
ปวดเมื่อยทั้งตัว  เหน็ดเหนื่อย เกียจคร้าน


ประจำเดือนมาไม่ปกติ
คัน ตามช่องคลอด  ประจำเดือนอาจติดออกมาเป็นก้อน (เป็นการระบายของเสีย) ประจำเดือนมามาก อาจมาก่อน-หลังกำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการขับถ่ายของเสียเป็นตัวกำหนด


ประสาทอ่อน
กลางคืนนอนไม่หลับ เช้าปกติ ไม่ง่วงนอน

อาการ ตอบรับหลังจากการดื่มเอนไซม์  อาจเกิดขึ้นได้ภายใน 1 วันจนถึงภายใน 1 – 2 เดือน ระยะเวลาที่มีอาการ และความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์แข็งแรงของแต่ละบุคคล  เช่น คนคนเดียว อาจเกิดอาการหลายครั้ง และอาจไม่เรียงลำดับตามข้างต้น ถ้าทนไม่ไหว ควรลดปริมาณการทานเอนไซม์ลงเหลือครึ่งหนึ่งในแต่ละครั้ง และดื่มน้ำอุ่นตามมาก ๆ อาการตอบรับที่เกิดขึ้น แสดงว่าร่างกายกำลังได้รับการฟื้นฟู  เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการดูแลสุขภาพ  อย่าหยุดใช้เอนไซม์ในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด  มิฉะนั้นการดูแลสุขภาพจะเป็นแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ซึ่งจะไม่เกิดประสิทธิผลอะไรเลย เมื่อร่างกายได้ผ่านพ้นจากช่วงปฏิกิริยาตอบรับการบำบัดแล้วนั้น หมายถึงร่างกายท่านได้เริ่มฟื้นฟู คืนสู่สุขภาพปกติแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง  สารพิษและเซลล์ผิดปกติส่วนใหญ่ได้รับการขับออก  ร่างกายมีอาการดีขึ้นมาก มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ เบิกบาน เปล่งปลั่ง อารมณ์ดี อย่างไรก็ตามหลังจากที่ร่างกายกลับสู่สภาวะที่ดีแล้ว  ก็ควรดื่มเอนไซม์ต่อไปเรื่อย ๆ  อาจลดปริมาณการใช้ลงเหลือ 1-2 ครั้งต่อวันควบคู่กันกับการควบคุมด้านโภชนาการ เพื่อรักษาสภาวะสมดุลของระดับเอนไซม์ในร่างกาย และขจัดสารพิษที่ยังค้างอยู่ให้ออกไป ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพในเชิงรุกแบบบูรณาการ

ตัวอย่างการทำงานของเอนไซม์

 

       การกินไข่ขาวดิบๆ จะมีสารชื่อ อไวดิน (Avidin) เป็นตัวห้ามการทำงานของเอนไซม์ (Enzyme inhibitor) โดยจะเข้าไปเบียดและแซงโคเอนไซม์ (Coenzyme) ซึ่งเป็นวิตามินบี (ไบโอติน– Biotin) ทำให้ไม่สามารถจับกับเอนไซม์คู่ของมันได้ตามปกติ ผลก็คือ เกิดขาดวิตามินบีได้ ไข่ขาวดิบๆ จึงไม่ควรกินเป็นประจำ การลวกไข่จะทำให้อไวดินถูกทำลายด้วยความร้อนจึงปลอดภัยในการบริ โภค
      การทำงานหนัก การออกกำลังกายมากเกินไปการออกกำลังกายระบบการเผาผลาญอาหารต้อง ทำงานเพิ่มขึ้น ถ้าแข่งกีฬาซึ่งต้องเอาแพ้เอาชนะกัน ยิ่งต้องใช้พลังงานสูงมาก ย่อมหมดเปลืองเอนไซม์ โลกมนุษย์ในยุคสารเคมีใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย หลังจาก ค.ศ. 1930 เป็นต้นมา ได้มีการใช้สารเคมีเพื่อการอุตสาหกรรม การปฏิวัติทางการเกษตรกรรม และการเร่งผลผลิต เพิ่มขึ้น ทั้งพืชและสัตว์จึงได้รับสารเคมีต่างๆ เข้ามาสะสมในตัวตั้งแต่ลืมตาดูโลก มนุษย์ได้สารเคมีปนเปื้อนผ่านมาทางวงจรอาหาร ทำให้เอนไซม์ในอาหารและในตัวคนเสื่อมคุณภาพ เกิดการขาดแคลนเอนไซม์ขึ้น  พวกเราทุกคนกำลังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยมลพิษ (Polluted World) เอนไซม์ในร่างกายจึงขาดแคลน ปัญหาจะมีมากถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ซึ่งสมองกำลังพัฒนามนุษย์สมัยใหม่มีรสนิยมในการกินของที่ผ่านกา รหุงต้ม (Cooked Food) มากกว่าอาหารดิบ (Raw Food)คนส่วนใหญ่พอใจที่จะกินอาหารที่ปรุงแต่ง อาหารที่อาบรังสี อาหารที่ใช้วิธีปิ้ง ย่าง มากกว่าอาหารดิบ เพราะชอบในความปลอดภัยจากเชื้อจุลินทรีย์ การที่เราปิ้งหรือย่างเนื้อสัตว์ทำให้เราสูญเสียเอนไซม์ในอาหาร และยิ่งถ้ามีอายุมากขึ้นเอนไซม์ในตัวเราก็ลดต่ำลง การย่อยโปรตีนจึงมีอุปสรรค ไม่ได้สารอาหารกรดอะมิโน (Amino Acid) ร่างกายจะขาดกรดอะมิโน ซึ่งจะนำมาใช้ในการผลิตเอนไซม์ของร่างกาย ดังนั้นผู้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป การใช้เอนไซม์เสริมจึงจะสร้างความมั่นใจว่าจะไม่ขาดเอนไซม์

ข้อควรระวัง ห้ามใส่น้ำร้อนจัดในเอนไซม์ เพราะทำให้เอนไซม์เสื่อม

 

อาหาร ที่ควรยกเว้น อาหารเค็ม รสจัด น้ำอัดลมทุกชนิด น้ำส้มสายชู น้ำตาลทรายขาว ผงชูรส ของหมักดอง แอลกอฮอลทุกประเภท บุหรี่ ส่วนในสุภาพสตรีอาหารที่ควรงดเพิ่มเติมอีก คือ เมล็ดพืชทุกชนิด น้ำมะพร้าว และยอดผักอ่อนๆ ทุกอย่างจะเป็นการดี

เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาอาคารสิริภิญโญ(ถนนศรีอยุธยา) ออมทรัพย์
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาราชเทวี สะสมทรัพย์
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาTesco Ladprao สะสมทรัพย์

Category

Member

Statistics

หน้าที่เข้าชม548,271 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด357,647 ครั้ง
เปิดร้าน11 มิ.ย. 2557
ร้านค้าอัพเดท4 ก.ย. 2568

Track Code

*ใส่ เบอร์มือถือ หรือ email ที่ใช้ในการสั่งซื้อ

Join Us!

ร้านDu-d4u&Fast Slim Clinic
ร้านDu-d4u&Fast Slim Clinic
www.du-d4u.com/
Join เป็นสมาชิกร้าน
80
สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ
ติดตามร้านของเราผ่านแอพได้แล้ววันนี้
  • พิมพ์ “Du-d4u&Fast Slim Clinic” ในช่อง Search
  • หรือเข้าจากรายการร้านค้าโปรดของฉัน
พูดคุย-สอบถาม