คุณสาวๆส่วนใหญ่คงอยากที่จะเป็นเจ้าของครอบครองหน้าอกขนาดใหญ่ อก กระชับ เต่งตึงเข้ารูป เพราะการมีหน้าอกที่สวยงามสมบูรณ์ เป็นวิธีที่ง่ายและดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณสาวๆ มีเส้นโค้ง เส้นเว้าที่แลดูเซ็กซี่ได้ทันที กระแสความนิยมหน้าอกใหญ่ อกกระชับ เต่งตึง ทำให้คุณสาวๆหลายคนกล้าที่จะไปทำสวยเสริมขนาด ตกแต่งหน้าอกโดยการใช้มีดหมอ ในขณะที่อีกหลายๆคนอาจที่จะหันไปพึ่งพาวิธีการตามธรรมชาติ การใช้ครีมเพิ่มขนาดหน้าอก หรือการใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีราคาค่อนข้างแพงเลยทีเดียว แต่บทความชิ้นนี้กำลังจะบอกกับคุณสาวๆที่อยากมีขนาดหน้าอกใหญ่ อกกระชับ เต่งตึงว่า ยังมีอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มขนาดหน้าอก ช่วยทำให้อกกระชับ เต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติได้ ด้วยวิธีการง่ายๆ อย่างการรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามโภชนาการ และมีสรรพคุณช่วยในการบำรุงอกกระชับ เต่งตึง อกใหญ่ สวยงามมากยิ่งขึ้น

อาหารที่มีคุณสมบัติช่วยทำให้อกกระชับ เต่งตึง อกใหญ่ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
 หลายครั้งที่คุณสาวๆมัวแต่พยายามสรรหาวิธีการต่างๆไกลตัวที่ไม่คุ้นเคยในการช่วยเพิ่มขนาดหน้าอก อกกระชับ เต่งตึง โดยมองข้ามไปว่า รอบๆตัวภายในครัวของคุณสาวๆเอง ก็มีอาหารมากมายหลายชนิดเลยที่มีสรรพคุณในการช่วยทำให้อกใหญ่ อกกระชับ เต่งตึงมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งอาหารเหล่านั้นได้แก่

 1.อาหารที่อุดมไปด้วยฮอร์โมน
 ความไม่สมดุลของฮอร์โมนมีผลต่อขนาดของหน้าอก ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ร่างกายก็จะมีการผลิตฮอร์โมนของเพศตรงข้ามอยู่ภายในเสมอ เพศหญิงที่ร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนเพศชายมากจนเกินไป จะส่งผลหยุดการเจริญเติบโตของเต้านมทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่คุณสาวๆ ต้องทำคือ การทานอาหารที่จะสามารถช่วยลดระดับฮอร์โมนเพศชายภายในตัวเองให้น้อยลง เพื่อให้ฮอร์โมนเพศหญิงนั้นมีมากกว่า ซึ่งจะส่งผลทำให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
 ผลไม้ ผักสด เป็นอาหารที่รู้จักกัน ดีว่าอุดมไปด้วยฮอร์โมน โดยเฉพาะบลูเบอรี่ สตอเบอรรี่ เชอร์รี่ แอปเปิ้ล ผลัม เป็นต้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถที่จะเลือกทานผักอย่างแครอท หัวผักกาด แตงกวา รวมไปถึงการนำธัญพืชมาใช้ในการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการช่วยควบคุมการผลิตฮอร์โมนเพศชาย และเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น
 เนื้อไก่ อุดมไปด้วยเอสโตรเจน ที่ช่วยในการเพิ่มขนาดหน้าอก และสามารถรับประทานด้วยการปรุงสุกได้โดยที่ไม่ได้เสียคุณค่าดั่งกล่าวไป นอกจากนี้เหล่าพืชในตระกูลถั่ว และสมุนไพร เครื่องเทศ อย่างเช่น กระเทียม รวมไปถึงนม ผลิตภัณฑ์จากนมอย่างโยเกิร์ต ยังอุดมไปด้วยเอสโตรเจนเป็นอย่างมากอีกด้วย

         2.อาหารที่ช่วยปรับปรุงการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อหน้าอก และเพิ่มการผลิตฮอร์โมนเพศ
 เหล่าผักใบเขียว เช่น หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาดหอม กระหล่ำปลี และพืชตระกูลถั่ว เป็นตัวเลือกที่ดีที่ช่วยในเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเต้านม แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอาหารเหล่านี้คือ พวกมันช่วยป้องกัยรอยแตกลายที่เกิดขึ้นบ่อยเมื่อเต้านมมีการเจริญเติบโตมาก ขึ้น อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน และโปรตีนเอง ก็สามารถช่วยในการเจริญเติบโตของเต้านมได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณสามารถหาแหล่งของโปรตีนได้จากพืชผัก โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น หน่อไม้ฝรั่ง แครอท หัวหอม หล่ำ บีทรูม ฟักทอง หรือการทานไข่เองก็เป็นตัวเลือกที่ดีอันหนึ่งเช่นกัน
   การผลิตฮอร์โมนอย่างเหมาะสมภายในร่างกาย ยังจำเป็นที่จะต้องฝใช้โบรมีน และแมงกานีส ซึ่งพบมากในวอลนัท และอัลมอนด์ หรือคุณอาจจะเลือกทานหอยแมลงภู่ ลูกแพร์ ขิง ข้าวโพด กระเทียม ข้าวกล้อง หรือแม้แต่กุ้ง ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่การทานอาหารที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนนั้นยังถือว่าไม่เพียงพอ คุณสาวๆควรหยุดพฤติกรรมการทานอาหารที่จะเข้าไปขัดขวางการเจริญเติบโตของหน้า อก เช่น คาเฟอีน เครื่องดื่มอัดลม อาหารขยะ และหากคุณต้องการให้การเจริญเติบโตของเต้านมเป็นไปอย่างรวดเร็ว ควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่าสม่ำเสมอ และดื่มนำให้มีปรมาณเพียงพอในแต่ละวันด้วย

         สำหรับคุณสาวๆแล้ว ไม่ว่าคนไหนก็คงอยากที่จะมีหน้าอกหน้าใจสวย และเข้ารูปชวนมอง ซึ่งเป็นการเสริมสเน่ห์ความเป็นหญิงให้กับตัวเอง แต่หนทางเคล็ดลับอกสวย ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับหลายๆคน สาเหตุสำคัญเลย คือ ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไรดีนั่นเอง ซึ่งในวันนี้ เพื่อคุณสาวๆที่อยากมีอกสวย บทความชิ้นนี้ก็จะขอแนะเคล็ดลับอกสวยอย่างง่ายๆ ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ส่วนเคล็ดลับอกสวยเหล่านั้นจะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปติดตามอ่านพร้อมๆกันเลยดีกว่า

8 เคล็ดลับอกสวย โดยไม่จำเป็นต้องทำศัลยกรรมพลาสติก
 1.นอนหลับด้วยท่านอนหงาย ถ้าหากเป็นไปได้ ริ้วรอยบนหน้าอกสามารถเกิดขึ้นได้จากท่านอนที่ไม่ถูกต้อง และควรใช้ครีมบำรุงทาที่บริเวรหน้าอกเพื่อป้องกันริ้วรอยทุกครั้งก่อนการ เข้านอนเพื่อเป็นการช่วยป้องกันริ้วรอย รวมไปถึงการสวมยกทรงเข้านอน เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้หน้าอกเกิดความหย่อนคล้อยมากขึ้นในอนาคต
 2.ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในเคล็ดลับอกสวยที่ ใช้ได้ผลมาทุกยุคทุกสมัย เพราะเป็นการช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าอก ที่ส่งผลให้หน้าอกดูฟิตเข้ารูป ดูกระปีกระเป่าแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
 3.การนวดหน้าอก เป็นหนึ่งในวิธีตามธรรมชาติที่สามารถช่วยขยายขนาดของหน้าอก ในขณะเดียวกันยังดีต่อสุขภาพโดยรวมของหน้าอกอีกด้วย การนวดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเสริมสร้างรูปร่างของหน้าอกอย่างน่ามหัศจรรย์ โดยคุณสามารถทำได้อย่างง่ายๆ หลังจากการอาบน้ำเท่านั้น
4.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกฮอลล์และสูบบุหรี่ ทั้งสองสิ่งนีเกี่ยวพันธุ์กับการเกิดมะเร็งเต้านม รวมไปถึงสุขภาพที่ไม่ดีต่อหน้าอก และร่างกายของคุณอีกด้วย
 5.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารพิษ คุณ สาวๆส่วนใหญ่อาจจะไม่ทราบว่า การใช้น้ำยาดับกลิ่นใต้วงแขน ที่มีส่วนผสมของเกลือ อลูมิเนียม หรือสารเคมีอื่นๆ ที่เป็นสารหนัก ที่สามารถซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือด และระบบน้ำเหลืองผ่านทางผิวหนัง สารเคมีเหล่านี้จะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันเกิดความบกพร่องขึ้น จนก่อให้เกิดความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อทั้งร่างกาย และจิตใจ นอกจากสารเคมีที่แฝงมากับเหล่าผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นกายแล้ว สารเคมีเหล่านี้ยังรวมไปถึงสารอย่างปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และน้ำยาทำความสะอาดที่ใช้ในครัวเรือนอีกด้วย
6.Moisturizer การ ใช้ครีมบำรุงผิวที่บริเวณหน้าอกอย่าสม่ำเสมอ เป็นหนึ่งในเคล็ดลับอกสวย ไม่ว่าจะเป็นหลังจากการอาบน้ำ หรือในขณะที่ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติก็ตาม

         7.เสริมการไหลเวียนโลหิต เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้หน้าอกของคุณเข้ารูป และดูน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น เพียงแค่ใช้น้ำร้อน และน้ำเย็นพรมสลับกันที่หน้าอก ในขณะที่คุณกำลังทำการอาบน้ำเท่านัน
 8.สวมใส่ชุดชั้นในให้เหมาะสม การสวมใส่บราที่ไม่ถูกต้องเข้ารูป จะส่งผลให้หน้าอกของคุณมีความอึดอัด ให้แน่ใจว่าคุณได้ลองสวมใส่ยกทรงที่มีความแตกต่างกัน จนกระทั่งพบว่ายกทรงแบบใดเหมาะสมกับตัวเอง สะดวกสบาย และทำให้หน้าอกของคุณมีรูปร่างที่สมบูรณ์มากที่สุด
  เพียงแค่คุณสาวๆ สามารถทำตามเคล็ดลับอกสวยอย่าง ง่ายๆที่ได้แนะนำไปแล้วในตอนต้นอย่างสม่ำเสมอ ในเวลาไม่นาน คุณสาวๆทุกคนก็จะสามารถมีอกที่สวยงามเข้ารูป ได้ตามความต้องการของตัวเองอย่างแน่นอน

         บทความนี้ขอติดเรท 18+ ไว้ก่อนเลย เพราะเราจะมาพูดถึงเรื่อง น.นมของคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ (สุภาพบุรุษก็ควรศึกษาไว้เป็นความรู้รอบตัว) โดยจะว่าไปนอกจากเรื่องอกเล็กอกไข่ดาวแล้ว ยังมีอีกอย่างที่ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ไม่แพ้กัน นั่นคือ “หัวนมดำ” ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าสาวๆแต่ละคนล้วนอยากได้หัวนมชมพูมาครอบครอง
         ทั้งนี้ทั้งนั้น การ ที่คุณผู้หญิงมีหัวนมดำ ก็ไม่ได้หมายความว่าหล่อนจะผ่านศึกหนักมาอย่างโชกโชน อย่างที่ผู้ชายสมองน้อยบางคนเอาไปซุบซิบกัน ข้อเท็จจริงคือสีของจุกนมนั้นจะคล้ำกว่าผิวโดยปกติ แต่จะคล้ำมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน และขึ้นอยู่กับบรรพบุรุษของเราด้วย โดยจะเห็นได้ว่าหญิงฝรั่งมีหัวนมชมพูมากว่าคนในบ้านเรา อย่างไรก็ดี มีบางสภาวะที่เต้านมอาจจะสีคล้ำมาก เช่น หัวนมของผู้หญิงท้อง เป็นต้น

         ดังนั้น ชายใดที่สรุปว่าผู้หญิงหัวนมดำคือคนที่ผ่านศึกมาโชกโชน นั่นหมายความว่าชายผู้นั้นไม่ได้มีความรู้เรื่องน.นมของคุณผู้หญิงอย่างแท้ จริง
         เกริ่นกันมายืดยาวขนาดนี้ หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะพอเข้าใจกันมากขึ้น ว่าเหตุใดสีของหัวนมของแต่ละคนจึงแตกต่างกัน ทีนี้มาดูกันว่าถ้าอยากหัวนมชมพู ทำไงดี

อยากหัวนมชมพู ทำไงดี ?
         โดยปกติฐานนมและเต้านมของเรานั้นเป็น ส่วนที่บอบบางมาก ต้องได้รับการดูแลอย่างอ่อนโยน เช่น เช็ดถูเบาๆหลังอาบน้ำ ยิ่งช่วงที่มีประจำเดือน สังเกตได้ว่าเต้านมมักจะแห้งมาก ควรหาครีมที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมทาให้ความชุ่มชื้น และควรดูแลโดยการทานวดด้วยครีมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง นอกจากนี้ อยากหัวนมชมพู ทำไงดี บทความนี้ขอนำเสนอวิธีดังต่อไปนี้
         1.ใช้ครีมทาหัวนมชมพู วิธีนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเจ้าครีมทาหัวนมชมพูมีขายทั่วไป โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์ ซึ่งครีมทาหัวนมจะเป็นเหมือนครีมกลุ่มไวท์เทนนิ่ง แต่สารที่ใช้ไม่ควรผสมสาร AHA รวมทั้งกรดวิตามินเอ เนื่องจากมีฤทธิ์ของการลอกผิว อาจมีการลอกมากจนเกิดการระคายเคืองได้ หากจะใช้วิธีนี้ต้องระวังให้มาก เพราะผลิตภัณฑ์บางตัวอาจจะไม่ผ่าน อย.และมีส่วนผสมที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะพวกสารปรอท สารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ซึ่งเป็นยารักษาฝ้า ทำให้ผิวที่จุกนมเกิดการระคายเคืองและหลุดลอกได้

         2.เลเซอร์หัวนมชมพู ต้องบอกเลยการทำเลเซอร์นี้จะช่วยคุณผู้หญิงได้หัวชมพูมาครอบครองได้จริงๆ แต่ไม่ถาวร เพราะผิวจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยมีแนวทางการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์เช่นเดียวกับการรักษากระ หมอจะใช้การยิงเลเซอร์ด้วย Q-switched Nd-YAG Laser คือ ยิงขึ้นสะเก็ดแผลเล็กๆ จะมีสะเก็ดแผลอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ ก่อนการทำเลเซอร์ต้องใส่ยาชา ทำเสร็จแล้วอาจมีอาการเจ็บแสบ และจะเป็นสะเก็ดแผลตรงลานหัวนมที่ยิงเลเซอร์ อย่างไรก็ตาม การยิงเลเซอร์ 1 ครั้ง สีของหัวนมจะอ่อนลงชั่วคราวและจะอยู่แค่ประมาณ 4-5 เดือน ไม่ถึงปีแน่นอน บางครั้งยิงไปครั้งเดียวอาจไม่ให้สีชมพูต้องมาทำอีก
         3.สักหัวนมชมพู เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่อยากหัวนมชมพู ทำไงดี แต่สีที่ได้ก็จะไม่ธรรมชาติเท่าที่ควร เนื่องจากสีผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ซึ่งวิธีสักหัวนมชมพูนี้จะคงทนถาวรกว่าการยิงเลเซอร์ แต่ราคาก็ย่อมสูงกว่า และมีเสี่ยงของการติดเชื้อได้มากกว่า จึงต้องชั่งใจคิดสักนิดก่อนลงเข็มสัก ที่สำคัญคือถ้าเมื่อไหร่อยากลบรอยสักขึ้นมา จะแก้ยากมาก รอยสักไม่ได้แก้ด้วยเลเซอร์เพียงครั้งเดียวหาย ต้องทำหลายรอบ หรือถ้าสักไม่ดีอาจเกิดการติดเชื้ออีก ทางการแพทย์จึงไม่สนับสนุนการสักหัวชมพู
         อยากหัวนมชมพู ทำไงดี นอกจากวิธีข้างต้นแล้ว คงต้องดูแลป้องกันไม่ให้มีการระคายเคืองมาก ต้องระวังเรื่องการอาบน้ำ บางทีฟอกสบู่มากไป จะทำให้ผิวแห้ง หรือบางคนที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ก็อาจจะเกิดรอยดำคล้ำได้ง่าย สุดท้ายนี้ ไม่อยากให้คุณผู้หญิงซีเรียสกับเรื่องสีของหัวนมมากจนเกินไป เพราะหัวนมดำเป็นเรื่องธรรมชาติ และยังมีเสน่ห์อีกมากมายเหลือคณานับที่จะใช้มัดใจเพศตรงข้ามได้

         คุณสาวๆหลายคนยามเมื่อเข้าสังคมกับเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง หรือคนใกล้ตัว มักจะอดไม่ได้ที่จะอิจฉาขนาดหน้าอกของคนรอบข้างที่มีมากกว่าของตัวเอง ทำให้ต้องแอบกลับมาค้นหาวิธีวิธีทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นอยู่ เป็นประจำ โดยแอบหวังว่าวิธีทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นเหล่านั้นจะสามารถช่วยเพิ่มขนาดหน้าอก ให้กับตัวเองอย่างไม่น้อยหน้าคนอื่นๆบ้าง ซึ่งสำหรับคุณสาวๆที่กำลังมีปัญหาเหล่านี้ และอาจที่จะลองวิธีทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นมาหลากหลายวิธีแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ผล จนเริ่มรู้สึกท้อแท้หมดหวังแล้วล่ะก็ อยากให้ลองเข้ามาอ่านทำการศึกษาวิธีทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นจากบทความชิ้นนี้ดูสักก่อน แล้วคุณจะพบว่ายังมีเคล็ดลับ ความลับอีกมากมายเกี่ยวกับวิธีทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อน

วิธีทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
 เชื่อหรือไม่ว่า คุณสาวๆสามารถที่ จะเพิ่มขนาดหน้าอกของตัวเองให้ใหญ่มากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพายาที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือการผ่าตัดขยายขนาดราคาแพง นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มขนาดหน้าอกของตัวเองได้อย่างมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากโรคแทรกซ้อนอันตรายอย่างมะเร็งเต้านมได้อีกต่างหาก
 ก่อนที่พูดถึงวิธีการขยายขนาดหน้าอกตามธรรมชิต จำเป็นที่จะต้องขอกล่าวถึงอันตรายที่มักจะเกิดขึ้นจากการขยายขนาดโดยใช้การ ผ่าตัดเสริมซิลิโคนเสียก่อน ด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้หญิงกว่า 300,000 คน ต่อปี ที่เข้ารับการผ่าตัดเสริมขนาดหน้าอกในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่าซิลิโคนจะได้รับการอนุญาตจากองค์กรอาหารและยา ในสหรัฐตั้งแต่ปี 1992 แต่ผู้หญิงกว่า 21% ที่เข้ารับการขยายขนาดต้องเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูง เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่มีหน้าอกแบบธรรมชาติ
 นอกจากนี้ ไม่ขอแนะนำให้คุณสาวๆใช้ยาคุมกำเนิดในการช่วยเพิ่มขนาดหน้าอก เพราะพวกมันมักที่จะให้ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายมากกว่าข้อดี ยาคุมกำเนิดส่วนใหญ่มีฮอร์โมนเพศหญิงที่ถูกเรียกว่าเอสโตรเจน ที่อาจช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกให้กับคุณได้เพียงเล็กน้อย แต่มักมีอาการปวดหัว อารมณ์แปรปรวร คลื่นไส้ มีเลือดออก ตามมาเป็นของแถมอีกด้วย คุณสาวๆสามารถช่วยให้หน้าอกของตัวเองเติบโตขึ้นได้ตามธรรมชาติ ขอเพียงแค่รู้จักขั้นตอนปฎิบัติตัวที่ถูกต้อง ปลอดภัย ดังต่อไปนี้
1.ดื่มอย่างมีประโยชน์ จากการศึกษาพบว่า หนึ่งในวิธีทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นที่ ดีที่สุดคือ การดื่มนมผสมน้ำผลไม้มะละกออยู่เป็นประจำ วิตามิน สารอาหารที่อยู่ภายในส่วนผสมเหล่านี้ มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในการช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของหน้าอก แต่ให้แน่ใจว่าคุณไมได้ทำการสูบบุหรี่ และพยายามหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮออล์

         2.ออกกำลังกาย นอกจากการช่วยขยายขนาดแล้ว การออกกำลังกายยังช่วยทำให้หน้าอกดูเต่งตึง กระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีการสอยวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่อการช่วยเพิ่มขนาด หน้าอกอย่างมากเลยทีเดียว
 3.ครีมขยายหน้าอกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% มีพืช บางชนิดที่มีส่วนผสมช่วยกระตุ้นในการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนตามธรรมชาติใน ร่างกายได้มากขึ้น ซึ่งคุณสามารถหาซื้อพวกมันได้อย่างไม่ยากนักด้วยการช็อปปิ้งออนไลน์
 4.ทานโปรตีน นม ไข่ ไขมัน เนยถั่วลิสง และไก่ รวมไปถึงสมุนไพรบางชนิดอย่างเช่น ยี่หร่า กลอย เป็นต้น อาหารเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกของคุณให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นได แต่ควรตรวจสอบให้แน่ใจอยู่เสมอว่าชุดชั้นในของคุณไม่แน่นจนเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจจะกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ค่อยขัดขวางการเจริญเติบโต ของหน้าอกเอาไว้
การเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น นอกจากเป็นารเสริมเสน่ห์ทางเพศให้กับตัวคุณ ยังเป็นการเสริมความมั่นใจในตัวเองได้อย่างดี แต่อย่างไรก็ตามคุณสาวๆไม่ควรใจเร็วด่วนได้ในการเพิ่มขนาดหน้าอก จนกระทั่งกลายเป็นการใช้วิธีผิดๆ ที่ทำร้ายตัวเองอย่างไม่ตั้งใจในอนาคต

          การออกกำลังกาย เคลื่อนไหว และโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างถูกต้อง เป็นการบริหารหน้าอกที่ ช่วยเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แถมยังเป็นการบริหารหน้าอกแบบที่ช่วยกระชับหน้าอกให้เข้ารูปอย่างเป็น ธรรมชาติอีกด้วย สำหรับคุณสาวๆคนไหนที่กำลังมองหาวิธีการบริหารหน้าอกด้วยตัวเอง เพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกอยู่ล่ะก็ รับรองว่าบทความชิ้นนี้จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน

ท่าการบริหารหน้าอกให้ใหญ่ เข้ารูป อย่างเป็นธรรมชาติ
ก่อนที่จะพูดถึงวิธีการบริหารหน้าอกอย่างถูกต้อง จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงความสำคัญของอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับประกอบการใช้ออก กำลังกายเสียก่อน อุปกรณ์ที่คุณจำเป็นจะต้องมีก็คือ ดัมเบล หนักประมาณ 3-5 ปอนด์ ลูกบอลยางสวิสสำหรับออกกำลังกาย เสื่อรองพื้น และชุดออกกำลังกายที่ทะมัดทะแมง ซึ่งการบริหารหน้าอกด้วย วิธีท่ำลังจะแนะนำดังต่อไปนี้ คุณจำเป็นที่จะต้องปฎิบัติตามอย่างซ้ำๆประมาณ 3-4 ครั้ง ต่อสัปดาห์ จึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
         1.ท่าดัมเบลครอส ถือดัมเบลบนมือทั้งสองข้างในระดับหัวไหล่ ก้าวเท้ากลับไปข้างหลังข้างหนึ่ง งอเข่าทั้งสองข้าง งอข้อศอกเล็กน้อย หลังจากนั้นทำเหมือนกับชกลมไปข้างหน้าในขณะที่ถือดัมเบลล์เอาไว้ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับศูนย์กลางของหน้าอก จากนั้นกลับเข้าไปสู่ท่าเตรียมพร้อม แล้วชกลมอีกครั้งด้วยการสลับข้างกัน
         2.ท่าหน้าอก นอนลงบนลูกบอลโดยให้หลังดุลและศรีษะดุลอยู่บนลูกบอล งอข้อศอก เล็กน้อยในขณะที่ถือดัมเบลเอาไว้ทั้งสองข้าง ให้สะโพกอยู่ในระดับแนวเดียวกับหัวเข่า จากนั้นให้โค้งข้อศอกออกไปด้านข้าง และลดดัมเบลให้ต่ำลง จากนั้นให้กลับไปสู่ตำแหน่งเริ่มต้นอีกครั้ง
         3.ท่าแตะไหล่สลับ ท่านี้จะคล้ายกับการวิดพื้น งอข้อศอกแล้วลดตัวคุณให้ลงไปอยู่เหนือพื้นดินเพียงไม่กี่นิ้ว หรือให้ต่ำมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากนั้นให้ทำการยกมือขวาออกจากพื้นดิน แล้วนำไปแตะที่ไหลซ้าย แล้วสลับเป็นยกมื้อซ้ายออกจากพื้นดินแล้วไปแตะที่ไหล่ขวา ให้ทำสลับกันไปเรื่อยๆ

         4.ท่ารอบโลก ยืนตัวตรง พร้อมกับถือดัมเบลเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง ยืนแยกเท้าให้ออกห่างจากกัน งอข้อศอกเล้กน้อย จากนั้นทำการยกดัมเบลขึ้นไปเหนือหัว จากนัน้ให้กลับเข้าสู่จุดเริ่มต้น และทำซ้ำอีกครั้ง
         5.ท่ากดหน้าอกสลับ นอนลงบนลูกบอลออกกำลังกาย โดยพิงหลังและศรีษะเอาไว้ให้มีความมั่นคง งอข้อศอกทั้งสองข้างออกไปประมาณ 90 องศา โดยที่ทำการถือดัมเบลลเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง โดยให้ขนาดอยู่กับระดับหน้าอก จากนั้นยกดัมเบลในมือขวาขึ้นสูงชี้ไปยังเพดาน กลับไปสู่ท่าเริ่มต้น แล้วสลับทำท่าเดิมซ้ำด้วยมือซ้ายอีกครั้ง สลับกันไปเรื่อยๆ
         6.ท่ายกตัว เป็นการบริหารหน้าอกด้วย การใช้เก้าอี้เข้ามาช่วย ย่อตัวลงโดยให้เก้าอี้อยุ่ทางด้านหลัง จากนั้นให้มือทั้งสองข้างของคุณวางอยู่บนเกาอี้ตัวนั้น จากนั้นให้ย่อตัวลง เหยียดขาตรง ทิ้งน้ำหนักตัวลงไป แล้วใช้แขนทั้งสองข้างค้ำยันน้ำหนักตัวของคุณเอาไว้ พร้อมกับผลักตัวขึ้นลงช้าๆจนสุด
การบริหารหน้าอกอย่างถูกวิธีจะช่วยทำให้คุณสาวๆมีขนาดหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน แต่โปรดอย่าลืมว่าการบริหารหน้าอกเหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง อย่างสม่ำเสมอ จึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

            เกลือและน้ำตาลเป็นสูตรสครับผิวที่ดีและสามาถทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน โดยคุณสมบัติต่างๆที่อยู่ในเกลือและน้ำตาลจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิวหนัง ช่วยขัดผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ดูสดใสอ่อนกว่าวัย ที่สำคัญไม่ทำร้ายผิว เพิ่มความอ่อนนุ่มแบบธรรมชาติ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆใช้เกลือและน้ำตาลเป็นส่วน ประกอบหลัก ทว่ายังมีการผสมสารเคมี รวมถึงตัวช่วยอื่นๆอีกมากมาย ทำให้ราคาแพงหูฉี่ วันนี้เรานำสูตรสครับผิวด้วยเกลือและน้ำตาลมาให้ลองทำกัน จะได้ไม่ต้องหาซื้อผลิตภัณฑ์ขัดผิวให้สิ้นเปลืองเงินในกระเป๋า ทั้งยังเสี่ยงต่อสารเคมีที่ตกค้าง
1.กล้วยและน้ำตาลทราย
ส่วนผสมง่ายๆ ได้แก่ กล้วยสุก 1 ลูก น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอมระเหยที่คุณชื่นชอบ (ถ้ามี) ¼ ช้อนชา ให้ผสมชนกันลงในถ้วย แล้วคนให้เข้ากันด้วยส้อม โดยอย่าคนให้เละมากจนเกินไป ขณะที่อาบน้ำให้ลูบส่วนผสมเหล่านี้ลงบนผิวกาย แล้วนวดเบาๆให้ทั่วเรือนร่าง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้นเป็นลำดับ แต่หากต้องการขัดผิวหน้า แนะนำให้ผสมมันบดไปด้วยเล็กน้อย และถูเบาๆให้ทั่วใบหน้า โดยระวังอย่าให้โดนบริเวณรอบดวงตาแสนบอบบางของเราของคุณ

2.ส้มหรือมะมาว และเกลือทะเล
 สูตรสครับผิวนี้ เหมาะสำหรับตอนเช้าหรือหลังเสียเหงื่อไปกับการเล่นกีฬาและออกกำลังกาย โดยใช้เกลือทะเล 1/2 ถ้วย น้ำมันอะไรก็ได้ เช่น โจโจบา อัลมอนด์ หรือน้ำมันมะกอก 1/2 ถ้วย ผสมกับส้มหรือมะนาว 1 ช้อนชา ทำให้เข้ากัน แล้วถูบนผิวในขณะที่อาบน้ำ แล้วล้างออก ซึ่งสามารถสครับได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย โดยระวังอย่าให้เข้าตา หรือบริเวณรอบๆดวงตา
3.น้ำมันมะพร้าวและน้ำตาลทรายแดง
  น้ำมันมะพร้าวมีความละเอียดอ่อน และมีกลิ่นหอม เป็นหนึ่งในน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยตรง สามารถใช้รับประทานและทาบำรุงผิวได้ ซึ่งสูตรสครับผิวนี้มีส่วนผสม ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว 1/2 ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย และวานิลลา 1/2 ช้อนชา โดยผสมเข้าด้วยกัน ถูบนผิวให้ทั่วเรือนร่างในขณะที่กำลังอาบน้ำ แนะนำให้นวดสักพัก ค่อยล้างออก เพื่อให้ผิวดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
เป็นยังไงกันบ้างกับสูตรสครับเพื่อขัดผิวให้สวย สุขภาพ ดี เพิ่มความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง เพราะส่วนผสมต่างๆทั้ง 3 สูตรข้างต้น ไม่ต้องใช้สารเคมีเป็นส่วนประกอบให้กังวลใจ ซึ่งเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและชอบดูแลผิวพรรณให้สดใส อยู่ตลอดเวลา ลองนำสูตรสครับนี้ไปใช้กันดู แล้วคุณจะพบกับความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างมาเพื่อผิวพรรณของเรา

            น้ำผึ้งมีประวัติมาอย่างยาวนาน เป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวของสาวๆทุกยุคสมัย โดยในน้ำผึ้งมีสารอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ส่งผลดีต่อการลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันและรักษาสิวไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยังเป็นครีมบำรุงที่ดี ช่วยบรรเทาการระคายเคืองผิวจากการเสื่อมเสียสภาพ ด้วยคุณประโยชน์แสนวิเศษของน้ำผึ้ง วันนี้เราจึงนำเคล็ดไม่ลับสำหรับสุขภาพผิวที่ดี ให้คุณผู้หญิงมีผิวขาวสวย สดใสแบบธรรมชาติมาให้ลองปฏิบัติกัน โดยสามารถทำเองง่ายๆที่บ้านได้

            1.มาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้ง เป็นสูตรเริ่มต้นที่เหมาะผิวหน้าสาวๆทุกคน เพื่อให้ใบหน้าดูสดใส เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ทำให้รู้สึกสะอาดหลังจากมาร์คหน้า
1.ตักน้ำผึ้งใส่มือแล้วชะโลมเบาๆให้ทั่วใบหน้า ใช้นิ้วถูเล็กน้อยเพื่อให้เข้าสู่ผิว รอ 5-30 นาทีค่อยล้างออก
2.นำน้ำผึ้ง 1 ช้องชา ผสมกับเนย 1 ช้อนโต๊ะ และไข่แดง 1 ลูก ทำให้เข้ากันแล้วพอกให้ทั่วใบหน้า ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก
            2.ล้างทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำผึ้ง น้ำ ผึ้งเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำความสะอาดสิ่งตกข้างบนผิวหน้า โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ โดยให้ผสมน้ำผึ้ง กับโจโจบาหรือน้ำมันมะพร้าว ถูใบหน้าเบาๆให้เข้าสู่รูขุมขน แต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา เพราะอาจทำให้ระคายเคืองได้ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น
            3.โลชั่นบำรุงผิวด้วยน้ำผึ้ง ถ้า รู้สึกว่าผิวแห้งจากอากาศที่หนาว หรือต้องอยู่ในห้องแอร์บ่อยๆ เมื่อกลับถึงบ้าน ลองผสมน้ำผึ้งกับน้ำมันมะกอก อย่างละ 1 ช้อน บีบน้ำมะนาวเล็กน้อย แล้วทำบำรุงผิวทั่วเรือนร่างแล้วปล่อยทิ้งไว้ 20 นาทีจึงเช็ดออกให้สะอาด

            4.มะนาวผสมน้ำผึ้งบำรุงผิวหน้า มะนาว ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังมีกรดอัลฟาไฮดรอกซี ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เสริมสร้างเซลล์ผิวที่แข็งแรงและสุขภาพดี โดยให้ผ่ามะนาวออกเป็นครึ่งซีก บีบใส่ถ้วยแล้วเพิ่มน้ำผึ้งลงไป 1 ช้อนชา ชะโลมและถูเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า ปล่อยให้นั่ง 5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
            5.แช่น้ำนมและน้ำผึ้งบำรุงผิว หลัง จากอาบน้ำเรียบร้อย ให้ผสมน้ำผึ้งสักถ้วยกับน้ำนม 2 ถ้วย และอาจเพิ่มน้ำมันหอมลงไปเล็กน้อย ที่ขาดไม่ได้คือน้ำอุ่น จากนั้นก็ลงไปแช่ให้สบายกายสบายใจสักพัก จะรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ชุ่มชื่นมีชีวิตชีวา มีกลิ่นหอมอย่างเป็นธรรมชาติ
            6.น้ำผึ้งขัดผิว ส่วน ผสมได้แก่ น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ผสมกับโซดา 1 ขวด เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้ขัดผิวให้ทั่วร่างกาย รวมถึงใบหน้าได้อีกด้วย แต่ควรขัดผิวด้วยน้ำผึ้งสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น เพื่อไม่ให้ผิวบอบบาง คล้ำเสียง่ายจนเกินไป ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือผิวที่ขาวสว่าง กระจ่างใส มีออร่ามากยิ่งขึ้น

            ปัญหาอกเล็ก อกไข่ดาวของคุณผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย เพราะหากใครมีหน้าอกที่พอเหมาะหรือถึงขั้นใหญ่โต ก็จะดูเหมือนคนมีของ เป็นที่น่าดึงดูดต่อเพศตรงข้ามได้มากกว่า ที่สำคัญคือสำหรับสาวอกเล็ก ปัญหาที่ตามมาอีกประการก็คือการเลือกเสื้อผ้าชุดสวยมาสวมใส่ ยิ่งปัจจุบันแฟชั่นการแต่งกายเน้นเปิดนิดโชว์หน่อย หากไม่มีให้โชว์เท่ากับว่าหมดโอกาสที่จะได้เดินเฉิดฉายพร้อมชุดสวย นอกจากนี้ปัญหาทรวงอกยังมีเรื่องของการหย่อนคล้อยไม่ได้รูป ไม่กระชับเต่งตึงของหน้าอกอีกด้วย
ดังนั้น ครีมนวดหน้าอกจึง ถูกผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองสาวๆที่ประสบกับปัญหานี้ คำถามก็คือผลิตภัณฑ์เหล่านั้นช่วยแก้ปัญหาเรื่องทรวงอกได้จริงหรือ บทความนี้จะไขข้อข้องใจให้กระจ่างชัดยิ่งขึ้น แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสรีระทรวงอกของสตรีกันก่อน

สรีระทรวงอกของสตรี
ในเต้านมจะแบ่งออกเป็น 15 ถึง 20 lobes หรือก้อน  ในหนึ่งก้อนจะประกอบไปด้วยก้อนขนาดเล็กๆ จำนวนมากที่เรียกว่า lobules ใน Lobules มีกลุ่มของต่อมเล็กๆ ที่สามารถผลิตน้ำนม ซึ่งจะไหลผ่านท่อไปถึงหัวนม ช่องว่างระหว่าง lobules และท่อจะถูกเติมเต็มด้วย ไขมัน (adipose tissues) ดังนั้นขนาดของเต้านมจะขึ้นอยู่กับปริมาณและขนาดของเซลล์ไขมัน

ปัญหาต่างๆเกี่ยวกับหน้าอก   
เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงจะพบการเปลี่ยนแปลงของขนาดทรวงอก เนื่องจากหน้าอกของเราประกอบด้วยเนื้อเยื่อไขมัน หรือ Adipose Tissue เมื่อผิวสูญเสียความเต่งตึงเพราะกาลเวลาและแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้ Adipose Tissue เกิดเป็นริ้วรอยไม่พึงประสงค์ รวมทั้งเกิดการหย่อนยาน นอกจากนี้อัตราการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมันจะลดลงและอัตราการตายของเซลล์ ไขมันจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ต้องพบปัญหาหนักใจเกี่ยวกับรูปทรงและขนาดของทรวงอก การคืนความเต่งตึงกลับคืนสู่ผิวและหน้าอก หรือขยายขนาดหน้าอกนั้น ต้องเพิ่มการอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน ภายใน Adipose Tissue เพื่อสะสมไขมัน Lipid ให้มาก เพื่อดันตัวเองให้ขยายขนาด เพิ่มความหนาเน่น และดันผิวให้เต่งตึงขึ้น

เมื่อย้อนขึ้นไปดูคำถามที่ว่าครีมนวดหน้าอกช่วยแก้ปัญหาเรื่องทรวงอกได้จริงหรือไม่ คำตอบก็คือโดยทั่วไปแล้ว ส่วนผสมต่างๆที่อยู่ในครีมนวดหน้าอก จะช่วยกระชับอกให้เต่งตึงได้รูปมากขึ้น และมักมีสารเพื่อบำรุงผิวและเพิ่มความอวบอิ่มนวลเนียนให้หน้าอก โดยเพิ่มปริมาตรเนื้อเยื่อไขมันในพื้นที่เจาะจงเฉพาะ เพิ่มการผลิตโปรตีนที่ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ไขมันเล็กๆ ให้เป็นเซลล์ไขมันสมบูรณ์ ทำให้เนื่อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังขยายขึ้น ซึ่งเป็ฯการดันหน้าอกให้กระชับ รวมทั้งส่วนที่หย่อนคล้อยให้กระชับ ซึ่งส่วนประกอบหลักที่สกัดจากธรรมชาติในครีมนวดหน้าอก มีดังนี้
            1.ใบบัวบก พืชสมุนไพรสารพัดคุณประโยชน์ ในใบบัวบกมีสารไกลโคไซด์ (Glycosides) ซึ่งจะช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ที่จะทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเสื่อมเร็ว และช่วยสร้างคอลลาเจนบำรุงผิว นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอสูง แคลเซี่ยมและวิตามินบี 1ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงหน้าอกให้นวลเนียน ผุดผ่อง

            2.เกสรบัวหลวง นำมาสกัดด้วยกระบวนการทางเคมี สามารถสกัดได้สารสำคัญ ได้แก่ kaempferol, kaempferol 3-0-B-D-glucopyranoside, sitosterol-3-0-B-D-glucopyranoside ซึ่งมีคุณสมบัติในการกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวขาวหรือยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ช่วยชะลอริ้วรอย บำรุงผิวพรรณ ให้แลดูอ่อนเยาว์ ครีมที่ทำให้นมโต
            3.โสม พืช สมุนไพรสรรพคุณมากมาย ในทางความงามนั้น เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่เป็นสาเหตุของการทำลายเซลล์ให้แก่ก่อนวัย ทำให้ผิวพรรณผ่องใส อ่อนกว่าวัย เพิ่มขนาดหน้าอก ยังไงดี
            4.สารสกัดจากรากของต้นชิโครี (Chicory) ที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงขึ้น และรอคอยการดูดซึมลงลึกเพื่อเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วงให้ริ้วรอยจางลง
อย่างไรก็ดี ครีมนวดหน้าอกมี จำหน่ายกันมากมายตามท้องตลาด ซึ่งอาจมีส่วนผสมที่เพิ่มมากขึ้น  และก่ออันตรายแก่ผู้ใช้ได้ สิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคก็คือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี ไว้ใจได้ และเหมาะสมกับตัวเรา เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ปัญหาทรวงอกโดยไม่ต้องกังวัลเรื่องผลข้าง เคียง

            เป็นที่รู้กันดีว่าในน้ำนมวัวมีไขมัน ซึ่งบั่นทอนการพยายามลดน้ำหนักของเราเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่นมพร่องมันเนยที่ถึงจะมีการลดไขมันไปบ้าง แต่ยังไม่วายเป็นตัวถ่วงในการลดความอ้วน เพราะไขมันไม่ได้ถูกขจัดออกไปทั้งหมด ถ้ายังอยากดื่มนมควบคู่ไปกับการลดน้ำหนัก ยังมีนมให้เลือกดื่มอีกมากที่จะช่วยให้การลดความอ้วนของเรามีประสิทธิภาพมาก ขึ้น
            1.นมวัวแบบไขมัน 0% หรือ Fat-Free อย่า พึ่งยอมแพ้กับการดื่มนมวัว เพราะยังสามารถเลือกดื่มนมวัวแบบไม่มีไขมันได้ แต่ในนมแบบ Fat-Free หนึ่งแก้วให้พลังงาน 90 แคลอรี่ ทั้งยังมีราคาแพงกว่าที่นมวัวธรรมดา แต่เพื่อการลดน้ำหนักให้ได้ผลมากขึ้นก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี
            2.นมแพะไขมันต่ำ หากใครแพ้นมวัว นมแพะที่มีไขมันต่ำเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะสำหรับนมแพะ 1 แก้ว ให้พลังงาน 100 แคลอรี่ และยังมีทั้งโปรตีนจำนวนมาก มีไขมันอิ่มตัวเล็กน้อย ที่สำคัญในน้ำนมแพะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและกรดไลโนเลอิก ซึ่งสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้
            3.นมถั่วเหลือง สำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือการดื่มนมที่ได้มาจากพืชและสามารถทดแทนนมวัวได้ ที่นิยมกันมากที่สุดก็คือนมถั่วเหลือง ซึ่งนมถั่วเหลือง 1 แก้ว มี 105 แคลอรี่และไขมันเล็กน้อย ทั้งยังมีโปรตีนมากกว่านมอื่น ๆ และมีรสหวาน หอม อร่อย

            4.น้ำนมข้าว มีโปรตีนน้อยกว่านมถั่วเหลืองหรือนมของวัว โดยน้ำนมข้าวจะมีส่วนผสมจากแป้งข้าวเจ้ากับน้ำ รสชาติไม่หวาน แต่ในน้ำนมข้าว 1 แก้ว ให้ 120 แคลอรี่ และมีไขมันที่น้อยกว่า
            5.นมจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ประมาณ 1/4 ถ้วย ให้พลังงาน ​​200 แคลอรี่ แต่หลังจากทำเป็นนม 1 แก้ว จะเหลือแค่ 80 แคลอรี่ แต่หาซื้อยากและมีราคาค่อนข้างสูง
            6.นมจากเมล็ดแฟล็กซ์ หรือ Flax Milk อีก หนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการดื่มนมควบคู่กับการลดน้ำหนัก แต่ใน Flax Milk หนึ่งแก้วให้พลังงาน 25 แคลอรี่ และมีไขมัน 2.5 กรัม ซึ่งอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ได้แก่ แคลเซียม วิตามินดี โอเมก้า 3 แต่ยังขาดโปรตีน ที่สำคัญรสชาติอาจไม่เป็นที่น่าพอใจของผู้บริโภคมากนัก จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่ด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ ช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ หากมีการปรุงแต่งรสให้หวาน จะทำให้น่ารับประทานมากขึ้น

            กางเกงยีนส์ไม่เคยโกหก…  ถ้าหากคุณปล่อยตัวเองในการกินจนมากไป จะพบว่ากางเกงแน่นฟิต หรือไม่สามารถดึงกางเกงผ่านต้นขาของคุณได้ นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าความอ้วนกำลังมาเยือนคุณแล้ว สำหรับคนที่ไม่อยากอ้วน บทความชิ้นนี้ขอนำเสรอวิธีกาเริ่มต้นลดความอ้วนที่ไม่ยุ่งยาก ด้วย 11 ขั้นตอนสู่การลดน้ำหนักให้ได้ตามเป้า
1.จำจัดคลอรี่ต่อวัน: การลดน้ำหนักเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างการขาดดุลแคลอรี่ 0.453 กิโลกรัม เเท่ากับ 3,500 แคลอรี่ ซึ่งแบ่งเป็น 500 แคลอรี่ต่อวัน ทำการออกกำลังกายและการตัดแคลอรี่ที่จะไปถึง 500 คุณสามารถพบกับนักโภชนาการหรือแพทย์เพื่อลดจำนวนแคลอรี่ทุกวันเฉพาะเจาะจง มากขึ้น แต่ไม่ควรลดต่ำกว่า 1,200 แคลอลี่

            2.พยายามตรวจสอบจำนวนแคลอรี่ของคุณอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ เท่าที่จะสามารถทำได้ โดยเขียนบันทึกหรือใช้แอพพลิเคชั่นลดน้ำหนัก บันทึกทุกสิ่งที่คุณกิน แล้วชั่งน้ำหนักตัวเองสักครั้งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์เพื่อติดตามความคืบ หน้าของการลดน้ำหนัก
            3.วัดและทำซ้ำ: วัด ถ้วย ช้อน และเครื่องชั่งน้ำหนักอาหารที่ถูกต้อง คุณจะประหลาดใจกับวิธีที่ง่ายก็คือการประเมินค่าสูงเมื่อคุณกำลังหิว ในช่วงไม่กี่เดือนแรกที่คุณจะต้องวัดทุกอย่างจากนมที่คุณเทลงในชามซีเรียล และน้ำในสลัดของคุณ
            4.ทานวันละห้าครั้ง: เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ความรู้สึกหิวเกิดขึ้นกับเราตลอด และจะกินมากเกินไป แผนในการรับประทานอาหารสามมื้อ และอาหารว่างสองครั้งต่อวัน ตัวอย่างเช่น
07:00 – อาหารเช้า
09:30 – อาหารว่าง
12:30 – อาหารกลางวัน
15:30 – อาหารว่าง
18:30 – อาหารค่ำ
[BINDING:24]
            5.ควบคุมสิ่งที่ทาน: จะรวมถึงโปรตีนที่จะตอบสนองความหิวของคุณ เป็นเส้นใยเพื่อเติมเต็มมากขึ้น และรัปประทานคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพเพื่อรักษาพลังงานของคุณ อาหารเช้ากลางวัน และเย็นสามารถรับประทานระหว่าง 300 และ 500 แคลอรี่ในแต่ละครั้ง ส่วนอาหารว่างสองครั้ง ครั้งละ 150 แคลอรี่ แล้วแต่ความเหมาะสมกับความต้องการของคุณ หรืออาจต้องการรับประทานอาหารเที่ยงให้มากที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีเวลา มากพอที่จะเผาผลาญแคลอรี่
            6.เซฟแคลอรี่: หาวิธีง่ายๆในการตัดแคลอรี่ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนจากโค้กเป็นน้ำเปล่า ชีสในแซนวิช ทั้งสองอย่างจะทดแทนปาเก็ตตี้สควอช พาสต้า หรือเลือกขนมพายแทนไก่งวง
            7.วางแผนล่วงหน้า: การ จัดการกับความหิวเป็นส่วนที่เลวร้ายที่สุดเกี่ยวกับการพยายามที่จะลดน้ำหนัก ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้คุณสามารถคว้าคุกกี้ที่ใกล้ที่สุด ควรวางแผนการรับประทานอาหารและขนมของคุณก่อนเวลา เขียนสิ่งที่คุณจะได้รับการรับประทานอาหารสำหรับทั้งสัปดาห์ และคุณจะประสบความสำเร็จมากขึ้นถ้าคุณแพ็คอาหารเพื่อรับประทานในแต่ละวัน

            8.การโยกย้าย: การ ลดอาหารเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลดน้ำหนัก และอีกส่วนคือการออกกำลังกาย เพื่อที่จะเผาผลาญแคลอรี่ที่จะลดไขมันในร่างกายโดยรวมของคุณ 60 นาทีของการออกกำลังกาย ทำให้หัวใจสูบน้ำห้าครั้งต่อสัปดาห์ การเดินเล่นคงไม่เพียงพอ เรากำลังพูดถึงการขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เพื่อจะสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ไขมันเผาไหม้ และการยืดเพื่อให้กล้ามเนื้อเหล่านั้นอ่อนนุ่ม และเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
            9.กำหนดเป้าหมายที่มีขนาดเล็กและปรับปรุง: จะ เป็นประโยชน์ในการกำหนดเป้าหมายที่มีขนาดเล็ก ก่อนไปสู่เป้าหมายใหญ่ของคุณ หาวิธีที่ทำให้มีสุขภาพดี และปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
            10.ทำความเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ยาก: อย่างแรกคืออาหารที่ไม่ตอบโจทย์ อะไรที่เข้มงวดเกินไปหรือไม่ได้มีคุณค่าทางโภชนาการ ก็ควรหาวิธีของการรับประทานอาหารที่สามารถกินเพื่อสุขภาพมากที่สุด การตามใจปากเป็นครั้งคราวก่อให้เกิดการกลับไปทำนิสัยเก่าอีกครั้ง และน้ำหนักที่ละลายหายไปก็จะกลับมา
           11.อดทนและจำไว้ว่าคุณกำลังทำมัน: ค่อยๆทำการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เวลา อาจลดลงประมาณครึ่ง หรือ 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ดังนั้นต้องฝึกความอดทน ในแต่ละปอนด์หายไปและเมื่อคุณรู้สึกเหมือนได้เฉลิมฉลอง คุณมีเหตุผลส่วนตัวมากมายในการลดน้ำหนัก หากทำได้จะสะท้อนความแข็งแกร่งให้เพื่อนๆเห็น จะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจมากขึ้น หรือคิดว่า “ต้องการทำเพื่อครอบครัวของ” หรือเพื่อมีประสิทธิภาพมากกว่าจงท่องไว้ว่า “ฉันต้องการที่จะดูดีเมื่อสวมกางเกงยีนส์”